Kitabı oxu: «ศาสตร์ต้องห้าม»

Şrift:

สารบัญ

 ศาสตร์ต้องห้ามโอเวน โจนส์(Owen Jones)หัสยา สันติสารบัญ2 ความฉงนใจของครอบครัวลี3 ผีปอบเฮง4 เส้นทางสู่การฟื้นตัว5 มันคือมนุษย์ หรือ มันคือนกกันแน่6 เฮงกลับมาทำงานได้แล้ว7 การพัฒนาด้านโภชนาการของเฮง8 การทดลองของเฮง9 เกสต์เฮาส์10 ธุรกิจใหม่ของครอบครัว11 วิถีฮิปปี้12 วาระแห่งการหยุดพัก13 ค้างคาวหนุ่มสาว14 ปรากฏการณ์ฝูงค้างคาว15 สภาค้างคาวแห่งแรกอภิธานศัพท์เรื่องราวของผู้เขียนแม่เสือลิลลี่แห่งกรุงเทพมหานคร

1 ศาสตร์ต้องห้าม

เรื่องเล่าชวนหัวของครอบครัวแวมไพร์ร่วมสมัย

โดย

1 โอเวน โจนส์

2 (Owen Jones)

1 หัสยา สันติ

สงวนลิขสิทธิ์โดย โอเวน โจนส์ (Owen Jones) ในวันที่ 21 มกราคม 2564

เป็นลิขสิทธิ์ของ โอเวน โจนส์ ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้เขียนงานนี้ได้รับการยืนยันตามมาตรา 77 และ 78 ของพระราชบัญญัติการออกแบบ และสิทธิบัตรลิขสิทธิ์ปี 2541 สิทธิโดยชอบธรรมของผู้เขียนได้รับการยืนยันแล้ว

ในผลงานนวนิยายเรื่องนี้ ตัวละครและเหตุการณ์ต่าง ๆ มาจากจินตนาการของผู้แต่ง หรือใช้ในเชิงการสมมุติขึ้นมาทั้งหมด บางสถานที่อาจมีอยู่จริง แต่เหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นเพียงเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นมาเองทั้งหมด

ตีพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ Megan Publishing Services

คำกล่าวอุทิศ

หนังสือเล่มนี้ขออุทิศให้เพื่อนของฉัน ได้แก่ ลอร์ด เดวิด พรอสเซอร์ (Lord David Prosser) และ เมอร์เรย์ บรอมลีย์ (Murray Bromley) ผู้ที่ให้ความช่วยเหลือ และครอบครัวชาวไทยของฉันที่ได้ทำให้ทุกอย่างเป็นจริงมากกว่าที่คาดหวังไว้ในปี 2556

กรรมจะตอบแทนทุกคนด้วยเมตตา

ติดต่อ:

http://facebook.com/angunjones

http://twitter.com/lekwilliams

owen@behind-the-smile.org

http://owencerijones.com

เข้าร่วมกับเราเพื่อรับข่าวสารสำหรับข้อมูลภายใน

เกี่ยวกับหนังสือและงานเขียนของ โอเวน โจนส์ (Owen Jones)

โดยส่งอีเมลมาที่:

http://meganthemisconception.com

1 1 นายลีกับสถาณการณ์ลำบาก

นายลี หรือตาเฒ่าลี คนในชุมชนรู้กันทั่วว่าเขามีอาการแปลก ๆ เกิดขึ้นมาร่วมอาทิตย์แล้วนั้น เพราะว่ามันเป็นเพียงชุมชนเล็ก ๆ และอยู่ในพื้นที่ห่างไกล จึงทำให้ทุกคนในละแวกนั้นรู้กันไปทั่ว เขาเสาะหาคำแนะนำจากหมอในพื้นที่ ซึ่งก็เป็นหมอเก่าแก่คนหนึ่งที่ไม่ใช่หมอสมัยใหม่ และเธอได้บอกกับลีว่าอุณหภูมิในร่างกายของเขานั้นไม่คงที่ เพราะมีบางอย่างส่งผลต่อระบบเลือดของเขา

เธอคนนั้นก็คือ หมอผีประจำชุมชน ป้าของนายลีนั่นเอง ตามความเป็นจริงแล้วก็ยังไม่แน่นอนว่านั่นคือสาเหตุของอาการหรือไม่ แต่เธอก็ให้สัญญาว่าเธอจะทราบถึงสาเหตุได้ในอีกไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแน่นอน หากลีทิ้งบางสิ่งสักสองอย่างไว้ให้เธอศึกษา และกลับมาฟังผลหลังจากนั้น หมอผีส่งกอตะไคร้น้ำ และก้อนหินให้นายลี

เขารู้ว่าต้องทำยังไง เพราะว่าเขาเคยทำมันมาก่อนหน้านั้น ดังนั้นเขาจึงปัสสาวะรดลงบนกอตะไคร้น้ำ และบ้วนน้ำลายพร้อมขากเสมหะลงบนก้อนหิน เขาส่งมันกลับไปให้เธอด้วยสีหน้าจริงจัง และระวังไม่ให้ของเหล่านั้นสัมผัสลงบนมือเปล่าของหมอผี เธอได้ห่อมันไว้ด้วยใบตองเพื่อรักษาความชื้นให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ ใช้เวลาสักวันนะ เพื่อให้มันเน่าเปื่อยและแห้งลง แล้วฉันจะดูให้แน่ใจว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเธอบ้าง”

“ขอบคุณครับ ป้าดา ผมหมายถึง ท่านหมอผีดา ผมจะรอคำตอบจากป้า และจะกลับมาใหม่ให้เร็วที่สุดเมื่อป้าเรียกพบ

“เธอรออยู่ที่นั่นล่ะ พ่อหนุ่ม พิธียังไม่เสร็จหรอก”

ดาเอื้อมมือไปด้านหลัง แล้วหยิบโถดินเผามาจากชั้นวาง เธอเปิดมันออกมาและหยิบเข้าปากสองคำ แล้วพ่นคำสุดท้ายใส่ตัวตาเฒ่าลี ในขณะที่ป้าดาท่องมนต์เพื่อเสกเป่าต่อพระผู้เป็นเจ้าอยู่นั้น นายลีคิดว่าเธอลืมที่จะชะล้างทำความสะอาด เขาไม่ชอบเลยกับการถูกพ่นน้ำลายใส่จากใครก็ตาม และโดยเฉพาะหญิงแก่ที่ฟันผุ

“นั่นสเปรย์แอลกอฮอล์ และคำอธิษฐานจะหลั่งไหลเข้ามามากพอจนกระทั่งเราจะสามารถหาความกระจ่างให้เธอได้” เธอให้คำมั่น

หมอผีดาลุกขึ้นจากจุดตำแหน่งรูปดอกบัวที่อยู่บนพื้นในสถานที่รักษาของเธอ แล้ววางมือบนบ่าของหลานชาย และเดินออกไปข้างนอกพร้อมเขา พันมวนยาเส้นขณะที่พวกเขาเดินออกไป

เมื่อออกไปด้านนอก เธอได้จุดมวนยาเส้น และอัดควันเข้าจนเต็มปอด “ภรรยาและลูก ๆ ที่น่ารักของเธอเป็นอย่างไรบ้าง”

“โอ้ พวกเขาสบายดี ป้าดา แต่ก็มีความกังวลเล็กน้อยเรื่องสุขภาพของผม ผมรู้สึกแย่มาสักพักแล้ว และผมไม่เคยป่วยเลยทั้งชีวิต อย่างที่ป้ารู้นั่นแหละ”

“ไม่หรอก ลี พวกเราเป็นคนแข็งแรงมากเลยนะ พ่อของเธอ น้องชายที่รักของฉัน จะยังแข็งแรงอยู่ตอนนี้นะ ถ้ายังไม่ตายเพราะไข้หวัดใหญ่ไปเสียก่อน แข็งแรงราวกับควายถึกอย่างที่เป็น เธอก็เจริญรอยตามแบบนั้น แต่เขาก็ไม่เคยถูกยิงตายนะ ฉันคิดว่า สิ่งที่เธอจมปลักอยู่นั่นก็คือ กระสุนของพวกแยงกี้

นายลีผ่านเรื่องราวนั้นมากว่าหลายร้อยครั้ง ซึ่งเขาเองก็ไม่อาจโต้เถียงได้ ดังนั้นเขาแค่พยักหน้ายอมรับ ส่งเงินให้ป้าไปห้าสิบบาท และกลับบ้านไปที่สวนของเขา ซึ่งไกลออกไปแค่สองสามร้อยหลาแค่นั้นเอง

เขารู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว ดังนั้นเขาจึงพยายามเดินอย่างกระฉับกระเฉงเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น

ตาเฒ่าลีเชื่อถือป้าดาคนเก่าคนแก่ของเขาเป็นอย่างมาก อย่างที่ทุกคนในชุมชนเชื่อถือกัน ซึ่งมันก็เป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีแค่ห้าร้อยหลังคาเรือน และสวนนอกหมู่บ้านอีกไม่กี่สิบแห่ง ป้าดาเป็นหมอผีของหมู่บ้านมาตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก และก่อนหน้านั้นมีอีกแค่สิบกว่าคน เท่าที่เขาจำความได้ ซึ่งพวกเขาไม่มีใบปริญญาทางการแพทย์ใด ๆ

นั่นไม่ได้หมายความว่าคนในชุมชนไม่สามารถเข้าถึงหมอได้ ซึ่งก็มีหมอประจำอยู่บ้างในตัวเมืองซึ่งอยู่ไกลออกไปราวเจ็ดสิบห้ากิโลเมตร และไม่มีรถโดยสาร แท็กซี่ หรือรถไฟเข้าไปยังภูเขาที่พวกเขาอาศัยอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนสุดของประเทศไทยได้ นอกจากนั้น ค่าหมอก็แสนแพง และการสั่งจ่ายยาก็มีราคาแพง ซึ่งทุกคนคิดว่าพวกเขาได้รับค่าคอมมิชชั่นที่สูงทีเดียว ไกลออกไปในหมู่บ้านอื่น ยังมีคลีนิคอีกสองสามแห่ง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่พยาบาลและหมอเวียนนอกที่ทำงานอยู่ที่นั่นเพียงแค่วันเดียวในสองอาทิตย์เท่านั้น

ชาวบ้านเองก็คิดในแบบเดียวกันกับนายลีว่า บางทีพวกเขาน่าจะเหมาะกับคนรวยในเมืองซะมากกว่า แต่ว่าก็ไม่ได้ใช้บริการมากมายอะไรกับพวกเขานัก

ชาวนาจะหยุดงานทั้งวันได้อย่างไร และเช่ารถรับจ้างเพื่อไปหาหมอในเมืองอย่างนั้นหรือ แม้ว่าคุณจะสามารถหาใครสักคนที่มีรถได้ก็ตาม ถึงจะมีรถแทรกเตอร์เก่าอยู่แค่ไม่กี่คันในระยะสิบกิโลเมตรนี้

ไม่หรอกน่า เขาคิดว่าป้าแก่ของเขาอาจไม่ได้ดิบดีอะไรในสายตาคนอื่น แต่เธอก็ดีมากพอสำหรับเขา และนอกจากนั้นเธอก็ไม่เคยปล่อยให้ใครตายหากมันยังไม่ถึงเวลา และเธอก็ไม่เคยฆ่าใครอย่างแน่นอน ทุกคนทราบกันดีกับสิ่งเหล่านั้น ทุกคนทราบกันดี

นายลีรู้สึกภูมิใจในตัวป้าของเขามาก และอย่างไรก็ดีไม่มีทางเลือกอื่นแล้วสำหรับระยะทางหลายกิโลในละแวกนี้ และแน่นอนว่าไม่มีใครที่มีประสบการณ์ทั้งหมดนี้เท่าเธอ ทั้งหมดนี้… ใช่หรือไม่ จริงอยู่ ไม่มีใครรู้ว่าอายุที่แท้จริงของเธอ ไม่แม้แต่ตัวเธอเอง แต่ถึงวันนี้อาจจะเก้าสิบปีแล้ว

นายลีเดินออกมาสนามหญ้าหน้าบ้านพร้อมกับมีความคิดเหล่านี้อยู่ภายใน เขาอยากจะคุยเรื่องนี้กับภรรยาของเขา เพราะถึงแม้เขามีฐานะเป็นหัวหน้าครอบครัวในสายตาคนภายนอกเฉกเช่นเดียวกันกับครอบครัวอื่น มันก็เป็นเพียงการแสดงออกภายนอก เพราะว่าในความเป็นจริงทุกการตัดสินใจมาจากทุกคนในครอบครัว หรืออย่างน้อยโดยรวมก็มาจากคนที่เป็นผู้ใหญ่

นี่จะเป็นวันสำคัญ เพราะลีไม่เคยมีวิกฤตเกิดขึ้นในชีวิตแบบนี้มาก่อน และลูกทั้งสองของพวกเขาซึ่งจะไม่ได้เป็นเด็กแบบนี้ตลอดไป ก็จะต้องได้รับอนุญาตให้พูดคุยด้วยเช่นกัน ประวัติศาสตร์กำลังจะถูกสร้างขึ้น และนายลีก็ตระหนักถึงเรื่องนี้ดี

“มัด!” เขาเรียกชื่อนี้กับภรรยาผู้เป็นที่รักของเขาตั้งแต่มีลูกคนหัวปีครั้นยังไม่สามารถพูดคำว่า ‘แม่’ ได้เลย “มัด อยู่ตรงนั้นหรือเปล่า”

ใช่ ฉันออกมาหลังบ้าน”

ลีรอเธอออกมาจากห้องน้ำสักครู่ แต่เพราะในบ้านอากาศร้อน และอบอ้าวเขาจึงกลับออกไปที่สนามหญ้าหน้าบ้าน และนั่งที่โต๊ะขนาดใหญ่ของครอบครัวที่มีหลังคามุงจาก ซึ่งทั้งครอบครัวเอาไว้รับประทานอาหาร และจะมานั่งที่นี่เสมอหากพวกเขามีเวลาว่าง

คูณนายลีมีชื่อจริงว่า “วรรณ” แม้ว่าสามีสุดที่รักจะเรียกเธอว่า “มัด” ตั้งแต่เมื่อครั้งที่ลูกชายคนโตเรียกแม่ได้นั่นแหละ ชื่อนี้ถูกเรียกติดปากนายลีมาตลอด แต่พวกลูก ๆ เองก็ไม่ได้เรียกแบบนั้น เธอมาจากหมู่บ้านชื่อว่า “บ้านน้อย” บ้านเดียวกับลี แต่ครอบครัวของเธอทราบกันว่ามาจากที่อื่นแล้วมาอาศัยอยู่ที่นี่ ขณะที่ครอบครัวของนายลีอพยพมาจากประเทศจีนกว่าสองชั่วอายุคนมาแล้ว อย่างไรก็ตามบ้านเกิดของทั้งสองนั้นอยู่ไม่ไกลกัน

เธอก็เป็นผู้หญิงธรรมดา ๆ คนหนึ่งในพื้นที่ ในวัยเด็ก เธอเองเป็นเด็กน่ารัก แต่ในสมัยนั้นเด็กผู้หญิงไม่ได้รับโอกาสมากนัก และพวกเขาก็ไม่ได้รับการสนับสนุนให้มีความปรารถนา ไม่ใช่ว่าสิ่งต่าง ๆ จะเปลี่ยนแปลงไปมากสำหรับลูกสาวของเธอ แม้ว่ามันผ่านมาถึงยี่สิบปีมาแล้ว

คุณนายลีมีความพอใจที่จะหาสามีหลังจากออกจากโรงเรียน ดังนั้นเมื่อเฮง ลีขอแต่งงาน และให้ค่าทำขวัญที่เขามีอยู่ในธนาคารแก่พ่อแม่เธอ เธอจึงคิดว่าเขาน่าจะดีพอ ๆ กับเด็กผู้ชายคนอื่น ๆ ในท้องถิ่นที่เธอน่าจะได้รับแบบเดียวกัน เธอไม่ได้มีความปรารถนาที่ต้อ

จากเพื่อน ไปที่อื่น

และสัมพันธภาพต่าง ๆ ที่มีอยู่แล้วมุ่งสู่เมืองใหญ่เพื่อเพิ่มโอกาสให้ตัวเอง

เธอได้รักกับเฮง ลีจากการตัดสินใจของตัวเอง แม้ว่าดวงไฟแห่งความรักมันจะมอดลงนานมากแล้วกับชีวิตรักในช่วงระยะเวลาอันสั้น และเธอเป็นมากกว่าหุ้นส่วนทางธุรกิจซึ่งมันมากกว่าการเป็นภรรยาในครอบครัวซึ่งอุทิศชีวิตอย่างแน่วแน่ในการใช้ชีวิตร่วมกัน และเพื่อลูก ๆ ของพวกเขา

วรรณไม่เคยพยายามแสวงหาคนรัก แม้ว่าเธอถูกยื่นข้อเสนอทั้งสองอย่างนี้มาทั้งก่อนและหลังจากชีวิตแต่งงานของเธอ ในเวลานั้นเธอโมโหมาก แต่ตอนนี้เธอมองย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้นด้วยความอ่อนโยน ลีเป็นคนแรกและคนเดียวของเธอ และตอนนี้ แน่นอนก็คงเป็นคนสุดท้าย แต่เธอไม่เคยเสียใจกับเรื่องนั้นเลย

ความฝันเพียงอย่างเดียวของเธอก็คือ ได้เฝ้ามองและดูแลหลาน ๆ ที่ลูก ๆ ของเธอก็ต้องการในเวลาที่พร้อม แต่เธอไม่ได้ต้องการให้พวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกสาวของเธอให้ต้องรีบแต่งงานเหมือนเธอ เธอรู้ว่าลูก ๆ ของเธอจะต้องมีลูกอย่างแน่นอนเหมือนวิถีของไข่ แบบเดียวกันกับไข่ หากพวกเขาสามารถทำได้ เพราะเป็นทางเดียวที่จะสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตนเองในวัยชรา และมีโอกาสพัฒนาสถานะทางครอบครัว

คุณนายลีสนใจเรื่องครอบครัว ฐานะ และเกียรติยศอย่างมาก แต่ทว่าเธอก็ไม่ได้ต้องการวัตถุมากไปกว่าที่มีอยู่ เธอเรียนรู้โดยใช้เวลาไม่นานนัก จนสิ่งเหล่านั้นไม่สำคัญสำหรับเธออีกต่อไป

เธอมีโทรศัพท์มือถือ และโทรทัศน์อยู่แล้ว แต่สัญญาณแย่มากที่เล็กน้อยมากที่จะบ่น และก็ไม่มีอะไรที่เธอสามารถทำได้นอกจากเฝ้ารอให้รัฐบาลดำเนินการปรับปรุงเครื่องส่งสัญญาณในพื้นที่ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันหนึ่งแน่นอน หรือไม่ก็เร็ว ๆ นี้ เธอไม่ได้ต้องการรถ เพราะเธอไม่อยากไปไหนทั้งนั้น และนอกจากนี้ถนนไม่ได้ดีอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม มันไม่เพียงแค่ผู้คนในช่วงอายุของเธอ และคิดว่ารถหนึ่งคันกว่าจะเข้าจอดในสถานีนั้นช่างนานเหลือเกินจนพวกเขาไม่พึงปรารถนามาหลายสิบปีก่อน กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เธอพอใจกับรถจักรยานและรถมอเตอร์ไซค์คันเก่าที่ใช้เป็นพาหนะในครัวเรือน

คุณนายลีก็ไม่ได้ปรารถนาที่จะใส่ทอง หรือเสื้อผ้าแฟชั่นอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากต้องดูแลเลี้ยงดูลูกสองคนด้วยค่าแรงของอาชีพชาวนาหลายปีมาแล้วเช่นกัน ถึงแม้ว่าทั้งหมดนั้น คุณนายลีเป็นผู้หญิงที่มีความสุขซึ่งรักครอบครัวเป็นอย่างมาก และยินดีที่จะอยู่ตามที่เธอเป็น และที่เธออยู่ จนกว่าพระพุทธเจ้าเรียกตัวเธอกลับบ้านเก่าอีกครั้งในวันหนึ่ง

นายลีเฝ้าดูภรรยาของเขาที่กำลังเดินมาหาเขา เธอกำลังปรับอะไรบางอย่างภายใต้ผ้าถุงของเธอจากด้านนอก มีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาควรสงสัย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไร เธอนั่งบนขอบโต๊ะ แล้วสะบัดขาขึ้นนั่งเหมือนนางเงือกบนโขดหินในเดนมาร์ก

“โอเค ยายเฒ่าจะพูดอะไร”

“โอ้ มานี่สิ มัด เธอไม่ได้แย่ขนาดนั้น! โอเค เธอกับเขาเข้ากันได้ดี แต่นั่นเป็นเพียงบางครั้งใช่หรือไม่ เขาไม่เคยพูดถึงเรื่องแย่ ๆ เกี่ยวกับเธอ แล้วทำไมเมื่อสามสิบนาทีที่ผ่านมาเขาถึงพูดเรื่องสุขภาพของเธอ…และเรื่องลูก”

“บางครั้งเธอก็โง่เหมือนกันนะเฮง เธอพูดกับฉันและเกี่ยวกับฉันอย่างดีหากมีคนรอบ ๆ ตัวได้ยิน แต่เมื่อใดก็ตามที่เราอยู่ลำพัง เธอจะปฏิบัติกับฉันเหมือนขี้โคลน และทำมาตลอด เธอเกลียดฉัน แต่เธอก็กลบเกลื่อนไม่ให้ใครรู้ เพราะเขารู้ว่าเธอจะเข้าข้างฉัน ซึ่งไม่ใช่ตัวเธอ คุณผู้ชาย เขาคิดว่าตัวเองรอบรู้งั้นหรือ แต่เธอไม่เคยรู้ว่ามีเกิดอะไรขึ้นภายใต้จมูกของเธอเอง

“เธอกล่าวหาฉันสารพัดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และหลายครั้งด้วยเช่นกัน…เช่น ไม่รักษาบ้านให้สะอาด ไม่ซักผ้าให้เด็ก ๆ และมีครั้งหนึ่งเธอยังบอกอีกว่าอาหารของฉันมีกลิ่นเหมือนฉันใช้ขี้แพะมาทำอาหาร!

“บ๊ะ เธอไม่เคยมองอีกมุมหนึ่งเลย แต่เธอก็ไม่เชื่อในตัวฉันด้วย เธอทำแบบนั้นกับภรรยาของตัวเองตัวเองใช่มไหม ใช่ เธออาจยิ้มได้นะ แต่มันไม่ตลกเลยสำหรับฉัน สามสิบปีมาแล้วให้ฉันพูดบ้างนะ ไม่เป็นไร มันเป็นอะไรที่เธอต้องพูด”

“ไม่มีอะไรจริง ๆ นั่นเป็นเพียงการตรวจสุขภาพ ดังนั้นมันจึงเป็นกิจวัตรเดิม ๆ เธอรู้ไหม ฉันฉี่ลงบนตะไคร้น้ำ บ้วนน้ำลายลงบนก้อนหิน แล้วก็ขอให้เธอฉีดเสปรย์แอลกอฮอล์ทำความสะอาดตัวจากขี้ฟันยายแก่ มันทำให้ฉันขนลุกเมื่อนึกถึงมัน เธอบอกว่า เธอจะบอกฉันในวันพรุ่งนี้ ในตอนที่เธอแจ้งให้ฉันทราบผล

“ลูก ๆ อยู่ที่ไหน พวกเขาไม่มาร่วมการสนทนาเรื่องในครอบครัวนี้ด้วยหรือ”

“ฉันคิดว่าไม่นะ อาจจะไม่ หลังจากนี้ เรายังไม่รู้อะไรใช่ไหม หรือคุณคิดว่ายังไง”

“ไม่ คงไม่ ฉันคิดว่า ฉันอาจจะให้สาวจีนคนนั้นนวดให้… มันอาจช่วยได้บ้าง ถ้าฉันขอให้เธอมาได้ง่าย ๆ เธอเรียนรู้ทักษะจากภาคเหนือของประเทศไทย และเธออาจจะค่อนข้างหยาบไปบ้าง หรืออาจไม่… เขาว่ากันนะ เธอรู้ไหมว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งธาตุแท้ของฉันก็คล้าย ๆ พวกเขานั่นแหละ บางทีพวกเขาก็จะได้ประโยชน์จากการถูนวดเบา ๆ ก็ได้นะ …คุณคิดว่ายังไงที่รัก”

“ใช่ ฉันรู้เธอหมายความว่ายังไงเกี่ยวกับการถูเบา ๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น ทำไมเธอไม่ขอคุณลุงให้นวดให้ ทำไมถึงเลือกหญิงสาวล่ะ”

“คุณก็รู้ว่าทำไมฉันไม่ชอบให้มือผู้ชายมาแตะตัวฉัน ฉันได้อธิบายไปแล้วนะ ก็ได้ ถ้ามันทำให้คุณไม่สบายใจ ฉันจะไม่ไปนวด”

“ฟังนะ ฉันไม่ได้พูดว่าไม่ให้เธอไปนะ! โอ้สวรรค์ ฉันไม่สามารถห้ามเธอได้หรอก ถ้าเธอต้องการจะไป! อย่างไรก็ตามอย่างที่เธอว่า มีคนบอกว่าเธอค่อนข้างจะหยาบคาย และเธออาจจะทำอันตรายมากกว่าทำให้ดีขึ้น ฉันคิดว่ามันดูฉลาดมากกว่าถ้าจะยังไม่ทำ จนกว่าเราจะรอฟังป้าเธอก่อน”

ได้ ก็ดี เธออาจจะพูดถูกก็ได้ เธอยังไม่บอกเลยว่าเด็ก ๆ อยู่ไหน”

“ฉันไม่แน่ใจจริง ๆ ฉันคิดว่าพวกเขาน่าจะกำลังกลับมา… พวกเขาออกไปงานวันเกิดด้วยกัน หรือทำอะไรสักอย่างในวันหยุด”

ครอบครัวลีมีลูกสองคน ผู้ชายและผู้หญิงอย่างละหนึ่งคน และถือว่าเป็นความโชคดี เพราะพวกเขาพยายามในการมีลูกถึงสิบปีก่อนเริ่มตั้งครรภ์ลูกชายคนแรก ในตอนนี้คนหนึ่งอายุยี่สิบปี อีกคนสิบหกปี ฉะนั้นนายลีและคุณนายลีจึงละทิ้งความหวังถึงสิ่งอื่นใดมานานมากแล้ว

พวกเขาล้มเลิกความพยายามมานานแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เด็กสองคนนี้เป็นเด็กดี ให้เกียรติผู้อื่น และเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย และพวกเขาทำให้พ่อแม่ภูมิใจเสมอมา หรืออย่างน้อยสิ่งที่พ่อแม่รับรู้ได้เกี่ยวกับพวกเขาก็คือ การทำให้พวกเขารู้สึกภาคภูมิใจ เพราะพวกเขาก็เหมือนกับเด็กดีทั่วไปคือ ดีอยู่ที่เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ก็สามารถรับมือกับเหตุการณ์เลวร้ายได้เช่นกัน และก็มีแอบคิดปิดบังในเรื่องพ่อแม่ไม่เห็นด้วยอยู่เช่นกัน

เจ้าหนูลี ลูกชาย นายเด่น หรือลีน้อย อายุย่างยี่สิบ และเรียนจบมาสองปีแล้ว เขาก็เหมือนกับน้องสาวของเขาที่มีความสุขกับชีวิตในช่วงวัยเด็ก แต่ความจริงก็คือ มันเริ่มมีความอึมครึมเกิดขึ้นในชีวิตจากสิ่งที่พ่อของเขาได้วางแผนชีวิตที่ยุ่งยากไว้ให้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยทำงานมาเลยในชีวิต ทำทั้งก่อนและหลังเลิกเรียนมาแล้ว อย่างไรก็ดียังมีเวลาเล่นฟุตบอลและปิงปอง และมีสาว ๆ ที่โรงเรียนเต้นรำในเวลานั้นด้วย

ตอนนี้ทุกอย่างได้สิ้นสุดลงแล้ว และมีแนวโน้มว่าเขากำลังมองหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ ไม่ใช่ว่าจะมีเรื่องแบบนี้ให้พูดถึงมากมายนัก แค่การจูบกันก็ยากแล้ว และแม้แต่การจับต้องของจริงก็ด้วย แต่ตอนนี้เขาไม่ได้ทำแบบเลยมาเกือบสองปีแล้ว เด่นคงจะไปในตัวเมืองทันทีในตอนนี้อย่างไม่ลังเล หากเขารู้ว่าจะทำอะไรได้บ้างเมื่อไปถึงที่นั่น แต่เขาก็ไม่มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าถึงขนาดนั้น นอกจากแค่ได้มีเซ็กส์บ่อย ๆ

ฮอร์โมนอันพลุ่งพล่านของเขากำลังสร้างปัญหาให้กับเขาถึงขนาดที่ว่า แพะบางตัวมันดูน่าสนใจสำหรับเขามาก ซึ่งทำให้เขากังวลอย่างต่อเนื่อง

จริง ๆ มันก็ไม่ถึงขนาดนั้น เขาตระหนักว่าเขาจะต้องแต่งงาน ถ้าเขาต้องการมีความสัมพันธ์ปกติกับผู้หญิง

การแต่งงานนั้น ถึงแม้ว่ามันต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายในการมีลูก ช่างดูเป็นการเริ่มต้นตัดสินใจที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก

สาวน้อยลี เป็นที่รู้จักกันในชื่อ “ดิน” เธอช่างเป็นเด็กอายุสิบหกที่น่ารักอย่างมาก เธอต้องออกจากโรงเรียนในฤดูร้อนที่จะถึงนี้ เธอเรียนน้อยกว่าพี่ชายสองปี ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติของคนในพื้นที่ ไม่ใช่เพราะเธอฉลาดน้อยกว่า แต่เป็นเพราะทั้งพ่อแม่และตัวเธอเองคิดว่ายิ่งถ้าเริ่มต้นการมีครอบครัวก่อนก็ยิ่งดีมากเท่านั้น หากเด็กสาวจะหาสามีเมื่ออายุน้อยกว่ายี่สิบปีมันง่ายกว่าหากช้าไปกว่านั้นสักสองสามปี ดินยอมรับ ‘ภูมิปัญญา’ ดั้งเดิมนี้ โดยไม่ตั้งคำถามแม้ว่าแม่ของเธอจะรู้สึกหวั่นวิตกก็ตามที

เธอยังทำงานทั้งก่อนและหลังโรงเรียนเลิก ตลอดชีวิตของเธออาจจะลำบากกว่าพี่ชายของเธอ แม้ว่าเธอจะไม่เคยเห็นเด็กผู้หญิงที่แทบจะเป็นแรงงานทาสอยู่ทุกหนแห่ง

อย่างไรก็ตาม ดินก็ยังคงมีความเพ้อฝันอยู่ เธอใฝ่ฝันถึงเรื่องราวที่แสนโรแมนติก ที่คนรักจะพาเธอไปอยู่กรุงเทพฯ ซึ่งบางทีเขาอาจจะเป็นหมอ และเธอจะใช้เวลาทั้งวันไปกับการช้อปปิ้งกับแฟนของเธอ ฮอร์โมนของเธอทำให้รู้สึกสับสนเช่นกัน แต่วัฒนธรรมท้องถิ่นของพวกเขากีดกั้นไม่ให้เธอยอมรับสิ่งเหล่านั้น แม้แต่กับตัวเธอเอง พ่อ พี่ชายและแม่ของเธอก็เช่นเดียวกัน อาจจะให้เธอเก็บตัวหากพวกเขาจับได้ว่าเธอยิ้มให้เด็กผู้ชายอื่นที่ไม่ใช่คนในครอบครัว

เธอรู้และยอมรับมันโดยไม่ตั้งคำถามใด ๆ เช่นกัน

มันคือแผนของเธอในการเริ่มมองหาสามีโดยทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่เธอได้พร้อมให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว เพราะผู้หญิงของตระกูลลีทั้งสองคนรู้ดีว่าควรทำให้สำเร็จโดยเร็วที่สุดเพื่อป้องกันความอับอายที่จะเกิดขึ้นแก่ครอบครัว

สรุปแล้วทั้งหมดนี้ ครอบครัวลีก็เป็นครอบครัวปกติทั่วไปในชุมชน และพวกเขาก็มีความสุขในสิ่งที่เป็น พวกเขาใช้ชีวิตภายใต้ข้อจำกัดตามวัฒนธรรมท้องถิ่นและคิดว่าสิ่งนั้นถูกต้อง และเหมาะสม แม้ว่าเด็กทั้งสองจะเก็บงำความฝันที่อยากหนีเข้าเมืองใหญ่ก็ตาม ปัญหาคือ การขาดความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการกลับคืนสู่อารยธรรมชนเผ่าที่มีมาหลายศตวรรษ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีสำหรับรัฐบาล ไม่เช่นนั้นคนหนุ่มสาวทั้งหมดจะหายไปจากชนบทอย่างเนิ่นนานเพื่อเข้าสู่กรุงเทพฯ และจากที่นั่นอาจเดินทางต่อไปยังต่างประเทศ เช่นไต้หวัน และโอมานที่มีค่าแรงดีกว่า อย่างไรก็ตามอิสรภาพจากแรงกดดันของคนรอบข้างจึงเป็นสิ่งที่ดึงดูดใจ

เด็กสาวหลายคนเคยเดินทางมาที่กรุงเทพฯ บางคนได้งานที่ดี แต่หลายคนจบลงด้วยการทำงานในอุตสาหกรรมทางเพศในเมืองใหญ่ และจากตรงนั้นมีเพียงไม่กี่คนที่เดินทางไกลไปถึงต่างประเทศ และแม้แต่นอกเอเชียเสียด้วยซ้ำ มันมีเรื่องราวน่ากลัวหลายเรื่องเกี่ยวกับการห้ามปรามเด็กสาวไม่ให้เลือกเส้นทางนั้น และพวกเขาต้องทำงานกับความอึกทึก และแม่ของเธอก็ถูกสอนมาเหมือนกัน

นายลีชอบวิถีชีวิตและรักครอบครัวของเขา ถึงแม้ว่ามันไม่อาจยอมรับได้ในการถูกจองจำจากภายนอก และเขาไม่อยากสูญเสียทุกคนเพราะความเจ็บป่วยที่อาจจะเริ่มก่อตัวขึ้นภายในตัวเขา ทั้งที่อายุยังไม่มากนัก

นายลีเฒ่า (ถึงแม้เขาจะรู้ว่ามีเด็กน้อยในหมู่บ้าน เรียกเขาว่า ตาลีแพะเฒ่า) ผู้มีอุดมการณ์ในช่วงวัยเยาว์ และได้เคยลงนามเพื่อต่อสู้กับเวียดนามเหนือในทันทีที่เขาออกจากโรงเรียน พวกเขาอาศัยติดกับชายแดนลาว ซึ่งเวียดนามเหนือก็อยู่ไม่ไกลจากที่นั่นเท่าใดนัก และรู้ว่าพวกอเมริกันทิ้งระเบิดที่นั่น และเขาต้องการจะทำอะไรสักอย่างเพื่อหยุดยั้งมัน

เขาเข้าร่วมกับคณะคอมมิวนิสต์เพราะเหตุนี้ และไปเวียดนามเพื่อฝึกรบโดยทันทีที่ถูกเรียกตัว หลายคนที่เขาฝึกรบด้วยนั้นก็เป็นเช่นเดียวกับเขา ส่วนหนึ่งเป็นคนจีน เป็นแต่เพียงความเอือมระอากับอำนาจจากต่างชาติที่เข้ามาแทรกแซงอนาคตของเพื่อนร่วมชาติของเขา เขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่า ทำไมคนอเมริกันที่อาศัยอยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์จึงมีความสนใจว่าใครจะเป็นผู้มีอำนาจในพื้นที่ส่วนเล็ก ๆ ของโลกเช่นนี้ เขาไม่เคยสนใจเลยว่าจะต้องเลือกประธานาธิบดีคนใด

อย่างไรก็ตาม คงเป็นชะตาฟ้าลิขิต เขาไม่เคยได้มีโอกาสกราดยิงคนด้วยความเกรี้ยวกราดเลย เพราะว่าเขาโดนเศษกระสุนจากระเบิดของพวกอเมริกันเสียก่อน ในตอนที่เขาถูกส่งไปฝึกออกค่ายที่สนามรบในวันแรกจากค่ายฝึก เขาได้รับความเจ็บปวดจากบาดแผลเป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แม้ว่าพวกเขาจะมีกำลังเพียงพอหากต้องปลดประจำการลีจากกองทัพ หลังจากที่เขาดีขึ้นจนออกจากโรงพยาบาลได้ เขาถูกชิ้นส่วนขนาดใหญ่ฟาดเข้าที่ขาซ้ายด้านบน แต่มีเศษกระสุนเล็ก ๆ สองสามชิ้นเจาะเข้าที่ช่องท้อง ซึ่งตอนนี้เขาคิดว่านั่นอาจเป็นสาเหตุของอาการป่วยนี้ นั่นเป็นที่มาของข่าวลือว่า เขาเคยถูกยิง

เขากลับบ้านพร้อมกับขาที่ยังกะโผลกกะเผลก และได้รับค่าตอบแทนที่เพียงพอที่จะซื้อที่ดินผืนเล็ก ๆ สำหรับเพาะปลูก แต่เนื่องจากขาของเขายังไม่ดีนัก เขาจึงซื้อฟาร์มและฝูงแพะ และเพาะพันธุ์แพะเพื่อขายมันแทน ภายในหนึ่งปีที่เขากลับมา ขาของเขาก็เริ่มดีขึ้นจนเป็นปกติ และเขาได้แต่งงานกับสาวสวยในชุมชนที่เขารู้จัก และถวิลหามาทั้งชีวิต เธอมาจากพื้นเพการทำกสิกรรม และพวกเขาก็ตั้งรกรากอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข แต่ก็ทำงานอย่างเหนื่อยยาก

ทุกวันต่อสัปดาห์ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ยกเว้นวันอาทิตย์ นายลีจะพาฝูงแพะของเขาไปในพื้นที่ราบสูงเพื่อกินหญ้า และในฤดูร้อนเขามักจะพักค้างคืนพักแรมอยู่ที่นี่ทีและที่นั่นที ซึ่งเขาได้เรียนรู้มันตอนอยู่ในกองทัพ เขามองย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้นด้วยความอาลัย ช่างเป็นวันที่มีความสุขยิ่งนัก แม้ว่าในเวลานั้นเขาจะไม่ได้ติดต่อกลับไปหาพวกเขาก็ตาม

ไม่มีนักล่าบนภูเขาอีกต่อไป เว้นเสียแต่ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง เพราะเสือทั้งหมดได้ถูกฆ่าตายไปหมดมานานแล้ว เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมยาจีน นายลีมีรู้สึกเกิดขึ้นหลากหลายมากมายเกี่ยวกับเรื่องเหล่านั้นในอีกแง่มุมหนึ่ง เขารู้ว่ามันเป็นความอัปยศ แต่ในทางกลับกันเขาก็ไม่ได้ปรารถนาที่จะต้องปกป้องแพะของเขาจากพวกเสือที่ปล้นสะดมอยู่ทุกคืนอีกต่อไป เมื่อความเจ็บป่วยได้คลืบคลานทำร้ายเขาเพียงแค่หนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาเป็นคนเลี้ยงแพะมาเกือบสามสิบปีแล้ว ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับภูเขาเช่นเดียวกับผู้คนในชุมชนที่คุ้นเคยสวนสาธารณะในชุมชนของพวกเขานั่นเอง

เขารู้ว่าพื้นที่ใดที่ควรหลีกเลี่ยงจากทุ่นระเบิด และกล่องสารพิษที่ชาวอเมริกันทิ้งในช่วงปีเจ็ดศูนย์ที่ผ่านมา และเขารู้ว่าพื้นที่ไหนปลอดภัย แม้ว่าทหารช่างจะพลาดไปหนึ่งหรือสองครั้ง เช่นเดียวกับแพะตัวหนึ่งของเขาที่ถูกพบเมื่อเดือนก่อน ช่างเป็นเรื่องที่น่าอดสูเกี่ยวกับมัน แม้ว่าร่างไร้วิญญาณมันจะไม่สลาย และจุดจบมันเร็วเกินไป เมื่อหินปะทุออกมาทำให้เกิดทุ่นระเบิด และกระเด็นขึ้นฟ้าทำให้หัวของมันหลุดกระเด็นออกไปด้วย

ระยะทางมันไกลเกินกว่าที่จะขนซากของมันกลับบ้าน ดังนั้นนายลีจึงใช้เวลาสองสามวันบนภูเขาเพื่อดูแลตัวเอง ในขณะที่ครอบครัวของเขากังวลว่าเขาจะป่วยเมื่อเขากลับมาที่ฟาร์ม

นายลีเป็นคนที่พอใจกับทุกสิ่งที่มีอยู่ เขาสนุกกับงาน และชีวิตกลางแจ้ง และยอมรับความเป็นจริงว่าเขาเองไม่ได้ร่ำรวยอะไร หรือไม่ได้ไปต่างประเทศได้อีกต่อไป ด้วยเหตุผลนี้เขาและภรรยาของเขาจึงใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่กับปัจจุบันอยู่กับลูกทั้งสองคน เขารักลูกเขาทั้งสองคนอย่างเท่าเทียมกัน และต้องการทำให้มันดีที่สุดสำหรับพวกเขา แต่เขาก็ดีใจเช่นกันที่พวกเขาออกจากโรงเรียนเพื่อที่พวกเขาจะได้ทำงานเต็มเวลาในฟาร์มซึ่งภรรยาของเขาปลูกพืชผักสมุนไพร และเลี้ยงหมูเอาไว้สามตัว และมีไก่อีกยี่สิบ สามสิบตัว

นายลีกำลังคิดว่าเขาจะขยายฟาร์มให้ได้มากเท่าไหร่ดีสำหรับเอาไว้เผื่อยามจำเป็น บางทีพวกเขาอาจต้องเพิ่มจำนวนไก่อีกหลายสิบตัว เพิ่มหมูอีกสักสองสามตัว และปลูกข้าวโพดหวานอีกสักหน่อย

เขาตื่นจากภวังค์ “จะเกิดอะไรขึ้น หากมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น มัด ฉันไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน แต่ฉันก็หน้ามืดมาแล้วสองครั้งในสัปดาห์นี้ และมันมีแววจะมากขึ้นอีกสองหรือสามครั้ง”

“ทำไมเธอไม่บอกฉันเรื่องนี้ก่อนล่ะ”

“รู้ไหม ฉันไม่อยากให้คุณกังวล และคุณไม่สามารถทำทุกสิ่งทั้งหมดนี้ได้ไม่ใช่หรือ”

“ไม่หรอก ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวอะไร แต่ฉันจะพาเธอไปหาป้าของเธอให้เร็วที่สุด และบางทีจะพาเธอไปหาหมอด้วย”

“ อ่า เธอก็รู้จักฉันดีนะ มัด ฉันเคยพูดว่า ‘รอดูว่าป้าจะพูดว่ายังไงก่อนที่จะใช้เงินทั้งหมดนั้น’ บางครั้งฉันต้องยอมรับว่ารู้สึกแปลก ๆ และฉันก็ค่อนข้างกลัวว่าป้าจะพูดว่ายังไงในวันพรุ่งนี้”

“ ใช่ ฉันก็เช่นกัน เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งนั้นใช่ไหม”

“บางครั้งนะ แต่ฉันรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรง ฉันเคยสามารถวิ่งและกระโดดกับแพะได้ แต่ตอนนี้ฉันแค่มองดูพวกมัน ฉันก็เหนื่อยแล้ว!

“มีบางอย่างผิดปกติ ฉันเชื่ออย่างนั้น”

“ดูนี่สิ พ่อ” ซึ่งเป็นชื่อสัตว์เลี้ยงจอมทึ่มของเธอที่ใช้เรียกเขา เแต่ทว่ามันมีความหมายใช้เรียก ‘พ่อ’ ในภาษาไทยด้วย “เด็ก ๆ ยืนอยู่ที่ประตู เธอต้องการให้พวกเขาเข้ามาตอนนี้หรือไม่”

“ไม่ คุณพูดถูก ทำไมต้องกังวลตอนนี้ แต่ฉันคิดว่าป้าจะบอกฉันตอนบ่ายของวันพรุ่งนี้ ดังนั้นบอกพวกเขาว่าเราจะประชุมครอบครัวกันในเวลาน้ำชา และพวกเขาจะต้องอยู่ที่นั่นด้วย

“ฉันคิดว่าฉันจะไปนอนแล้ว ฉันรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาอีกแล้ว การเสกเป่าของป้าทำให้ฉันมีพลังเพียงชั่วระยะหนึ่ง แต่มันก็เสื่อมไปแล้ว บอกพวกเขาว่าฉันไม่เป็นไรนะ แต่ขอให้เด่นช่วยเอาแพะออกไปให้ฉันพรุ่งนี้จะได้ไหม เขาไม่ต้องพาพวกมันไปไกลนัก เพียงแค่ลงไปตามลำธารเพื่อที่พวกมันจะได้กินวัชพืชในแม่น้ำ และดื่มน้ำ… มันจะช่วยพวกมันได้สักวัน สองวัน

หากเธอมีเวลาสักสิบนาที เธอช่วยทำชาแบบพิเศษให้ฉันหน่อยได้ไหม อันที่มีขิง โป๊ยกั๊ก และสิ่งต่าง ๆ… ที่น่าจะช่วยฉันให้สดชื่นขึ้นมาได้บ้าง… โอ้ และเมล็ดแตงโม หรือเมล็ดทานตะวันสักหน่อย… บางทีเธออาจจะขอให้ดินแกะให้ฉันจะได้ไหม”

“แล้วซุปสักถ้วยดีไหม มันเป็นของโปรดเธอนี่… ”

ได้ ตกลง แต่ถ้าฉันเผลอหลับ ก็วางมันไว้บนโต๊ะนะ และฉันจะทานตอนที่มันเย็นลงแล้วในภายหลัง

“สวัสดีเด็ก ๆ ฉันจะไปนอนให้เร็วขึ้นในคืนนี้ แต่ฉันไม่อยากให้พวกเธอต้องห่วงฉัน ฉันสบายดี แม่ของพวกเธอจะเล่ารายละเอียดให้ฟังนะ ฉันแค่ติดเชื้อบางอย่าง ฉันคิดว่าอย่างนั้น ราตรีสวัสดิ์นะทุกคน”

“ราตรีสวัสดิ์ พ่อ”พวกเขาตอบกลับ ดินดูกังวลเป็นพิเศษ ในขณะที่พวกเขามองนายลีอย่างห่วงใยก่อนที่นายลีจะเดินหันหลังไป และจากนั้นก็หันมามองหน้ากัน

ในขณะที่นายลีล้มตัวนอนในค่ำคืนที่มืดมิดและเงียบงัน เขารู้สึกว่าตัวเขามีอาการปวดตุบ ๆ มากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับอาการเวลาฟันผุที่มักจะมีอาการเจ็บปวดอย่างมากในเวลานอนตอนกลางคืน แต่เขาก็เหนื่อยมากจนเคลิ้มหลับไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะชา ซุป และเมล็ดธัญพืชจะถูกนำมาให้เขา

ข้างนอกบ้านบนโต๊ะตัวใหญ่ ท่ามกลางดวงไฟสลัวครอบครัวเล็ก ๆ คนที่เหลือนั่งพูดคุยกันถึงสภาวการณ์ของนายลีด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา แม้ว่าจะไม่มีใครได้ยินพวกเขาหากพวกเขาพูดออกมาดัง ๆ ก็ตาม

“พ่อจะตายไหม แม่” ดินแทบจะร้องไห้ออกมา

“ไม่หรอก ลูกเอ้ย ไม่อย่างแน่นอน” เธอตอบ “อย่างน้อย…แม่ก็ไม่คิดแบบนั้น”

10,09 ₼
Yaş həddi:
0+
Litresdə buraxılış tarixi:
29 iyul 2021
Həcm:
210 səh.
ISBN:
9788835426608
Tərcüməçi:
Müəllif hüququ sahibi:
Tektime S.r.l.s.
Yükləmə formatı:
Audio
Orta reytinq 4,6, 402 qiymətləndirmə əsasında
Mətn, audio format mövcuddur
Orta reytinq 4,7, 202 qiymətləndirmə əsasında
Audio
Orta reytinq 4,2, 515 qiymətləndirmə əsasında
Mətn
Orta reytinq 4,8, 30 qiymətləndirmə əsasında
Mətn
Orta reytinq 0, 0 qiymətləndirmə əsasında
Mətn
Orta reytinq 0, 0 qiymətləndirmə əsasında
Mətn
Orta reytinq 0, 0 qiymətləndirmə əsasında
Mətn
Orta reytinq 0, 0 qiymətləndirmə əsasında
Mətn
Orta reytinq 0, 0 qiymətləndirmə əsasında
Mətn
Orta reytinq 0, 0 qiymətləndirmə əsasında
Mətn
Orta reytinq 0, 0 qiymətləndirmə əsasında
Mətn
Orta reytinq 0, 0 qiymətləndirmə əsasında
Mətn
Orta reytinq 0, 0 qiymətləndirmə əsasında
Mətn
Orta reytinq 5, 3 qiymətləndirmə əsasında